วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561

ปฏิบัติงานให้มีความสุข ไม่เครียด



บทความจาก สคบ. สาร นำมาเล่าต่อให้เพื่อน ๆ ฟังอาจจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เคร่งเครียดเรื่องการทำงาน อาจจะช่วยได้และทำให้การทำงานมีความสุขมากขึ้น บทความมีดังนี้

ปฏิบัติงานให้มีความสุข... ไม่เครียด

 มนุษย์เกิดมาต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมเพื่อความอยู่รอดเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตการงานและความสุขของครอบครัวปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้มนุษย์เกิดความเครียด ซึ่งเกิดจากการใช้สมองขบคิดแก้ปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงขอแนะนำวิธีการปฎิบัติงานให้มีความสุขดังนี้

1. มีความพอใจกับงานที่ทำ แม้จะเป็นงานที่ไม่ชอบก็ต้องพยายามสร้างความชอบ ความสนใจในงานที่ทำ มองจุดเด่นของงานที่ต้องใช้ความสามารถสร้างความภูมิใจให้กับงานของตน

2. เตรียมพร้อมที่จะรับงานในวันรุ่งขึ้นด้วยการตื่นนอนแต่เช้าด้วยจิตใจที่แจ่มใส เบิกบาน ตัดความคิดฟุ้งซ่าน ความวิตกกังวลให้สิ้นไป

3. ทำงานให้เต็มความสามารถ รวดเร็ว เรียบร้อย และถูกต้องและควรถือว่าทุกคนย่อมมีความผิดพลาดได้ อย่าโทษคนอื่นหรือโทษตนเองจนเกิดความเครียดวิตกกังวล

4. คิดเสียว่า การทำงานย่อมต้องมีการกระทบกระทั่งกันเป็นของธรรมดาให้อภัยกันได้ ไม่ควรเก็บความเครียดแค้นไว้ในใจ อย่ามองคนในแง่ร้าย หวาดระแวงจะไม่มีความสุขในชีวิตการทำงานและการดำรงชีวิตในสังคม

5. ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าถือตัวเองเป็นใหญ่ไม่ใช้อารมณ์ต่อเพื่อนร่วมงานไม่ว่าจะเป็นต่อผู้บังคับบัญชาหรือผู้ใต้บังคับบัญชา

6. งดเว้นการพูดนินทาตั้งกลุ่มวิจารณ์บุคคลอื่น ๆ

7. เมื่อกลับบ้านอย่าคิดกลุ้มใจเกี่ยวกับงานที่ทำผ่านมาแล้วขณะเดียวกันเมื่อทำงานควรทิ้งเรื่องต่าง ๆ ที่บ้านไว้เสียจะได้ทำงานด้วยความปลอดโปร่งใจและมีสมาธิ

   อย่างไรก็ตามแม้จะรู้ถึงชีวิตการปฎิบัติงานอย่างมีความสุขแล้วก็ตาม อาจเกิดความเครียดขึ้นได้ ซึ่งเราจะสังเกตได้จากลักษณะอารมณ์และพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากความเคยชิน เช่น กลายเป็นคนนอนน้อย หลับยาก ตื่นง่าย ทำงานมากขึ้น ไม่ค่อยเหน็ดเหนื่อยไม่ค่อยพูดจากับใครกินน้อยไม่ค่อยหิวหรือบางคนกลับกินมากขึ้นอาจนั่งคล้ายเหม่อลอยไม่ต้องการให้ใครรบกวน วิธีแก้ไขหรือผ่อนคลายเครียดทำได้หลายวิธีดังนี้

1. หยุดคิดสักนิดว่าตนเองกำลังมีความเครียด เพื่อจะได้รู้สึกตัวพยายามทางให้ความเครียดค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

2. รู้จักควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับปกติ หาทางระบายความวิตกกังวลใจด้วยการออกกำลังกาย หรือทำงานอย่างอื่นที่ใช้กำลังเพื่อลดความกลุ้มใจ

3. ควรพักผ่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยการไปพักผ่อนตากอากาศหาความสนุกสนานเพลิดเพลินเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยให้จิตใจแจ่มใสสมองปลอดโปร่ง

4. หาคนที่ไว้ใจได้ปรับทุกข์ เพื่อระบายความอึดอัดใจแต่ต้องเป็นคนที่รู้จักรับฟังไม่ขัดคอและเป็นเพื่อนแท้

5. ถ้าหาทางออกด้วยตนเองไม่ได้ ควรไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงเริ่มตั้งแต่ผู้อาวุโสในครอบครัว ในที่ทำงาน ครู พระสงฆ์ผู้ที่เป็นที่เคารพนับถือของครอบครัว นักจิตวิทยา จิตแพทย์

6. เปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิตใหม่ เช่น หางานขายของเป็นการเพิ่มรายได้พิเศษและได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น

7. การฝึกสมาธิสามารถทำให้จิตสงบได้ โดยเลือกวัดที่มีสถานที่เงียบสงบ มีพระภิกษุหรืออาจารย์ที่สามารถสอนการฝึกสมาธิได้และเริ่มต้นรักษาศีลให้ทานและฝึกสมาธิเพื่อทำให้จิตใจลดความกระวนกระวายและความทุกข์ลดลงได้
จากข้อแนะนำดังกล่าวจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถคลายเครียดลงได้และทำงานได้อย่างมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน
เรียบเรียงจาก " วิธีปฏิบัติงานให้มีความสุข " กองแผนงานสุขภาพจิต กรมการแพทย์ คอลัมน์ ชีวิตและสุขภาพ ของ น. พ. สุรพงศ์ อำพันวงษ์

ข้อมูลจากหนังสือรายการกระจายเสียง วิทยุศึกษา เดือน พฤศจิกายน 2536 หน้า 44 -46

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุก ๆคน ขอบคุณค่ะ