วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

โรคอุจจาระร่วงป้องกันได้ด้วยตัวเอง







โรคอุจจาระร่วง หมายถึง การถ่ายอุจจาระเหลว จำนวน 3 ครั้ง ต่อวัน หรือมากกว่า หรือถ่ายมีมูก หรือมูกปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง หรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 1 ครั้งขึ้นไปภายใน 1 วัน ( เด็กแรกเกิดที่กินนมแม่อาจถ่ายอุจจาระนิ่มเหลวไม่มีมูกปนเลือดหรือกลิ่นโดยไม่มีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน หรือเป็นไข้ ถือว่าปกติ )

สาเหตุ
    อุจจาระร่วงที่เกิดจากการติดเชื้อมีสาเหตุจากการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่สะอาด การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนการเตรียมหรือปรุงอาหาร และภาชนะสกปรกหรือมีเชื้อโรคปะปน

อันตรายจากโรคอุจจาระร่วง
    อุจจาระร่วงทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ไปพร้อมกับอุจจาระจำนวนมาก จนอาจทำให้ช็อคหมดสติและถึงแก่ความตายได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการอุจจาระร่วงที่บ้าน
1. กินหรือดื่มของเหลวมากกว่าปกติเพื่อป้องการการขาดน้ำและเกลือแร่ โอ อาร์ เอส น้ำแกงจืด หรือน้ำข้าวใส่เกลือ
2. รับประทานอาหารเพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร ดังนี้
* เด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่ให้ลูกดูดนมแม่มากขึ้น
* เด็กที่กินนมผสม ให้ผสมนมตามปกติแล้วให้กินครึ่งหนึ่งสลับกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่โอ อาร์ เอส อีกครึ่งหนึ่ง ปริมาณเท่ากับนมที่เคยกินตามปกติ
* เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ให้อาหารเหลวที่ย่อยง่าย เช่น โจ็ก ข้าวต้ม ปลาต้ม เนื้อสัตว์ต้มเปื่อย เป็นต้น
* ผู้ใหญ่ รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย
3. พาผู่ป่วยมาพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น ดังนี้
* ยังคงถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก
* อาเจียนบ่อย
* กินอาหาร หรือดื่มน้ำไม่ได้
* มีไข้
* กระหายน้ำมากกว่าปกติ
* อ่อนเพลียมาก ตาลึกโหล
* ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด


วิธีการป้องกันโรคอุจจาระร่วงด้วยตัวเอง
* ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้ง ก่อนปรุงหรือรับประทานอาหารและภายหลังถ่ายอุจจาระ
* ดื่มน้ำสะอาด ถ้าเป็นน้ำต้มสุกจะดีที่สุด และเลือกซื้อน้ำแข็งที่ถูกหลักอนามัย
* เลือกรับประทานอาหารที่สะอาด สุกใหม่ ๆ ไม่ควรรับประทานอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารที่มีแมลงวันตอม หากจะเก็บอาหารที่เหลือจากการรับประทาน หรืออาหารสำเร็จรูปที่ซื้อไว้ ควรเก็บไว้ในตู้เย็น และอุ่นให้เดือดทั่วถึงทุกครั้งก่อนรับประทาน
* ผักหรือผลไม้ ก่อนรับประทานให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง
* ส่งเสริมให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อให้เด็กมีภูมิต้านทานโรค
* ขวดนมล้างให้สะอาด แล้วต้มในน้ำเดือด 10 - 15 นาที
* กำจัดขยะมูลฝอย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงวัน เช่นอุจจาระเด็ก กำจัดหรือทิ้งในโถส้วมหรือกลบให้มิดชิด
* ถ่ายอุจจาระ ในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ

ดื่มน้ำตาลเกลือแร่ โอ อาร์ เอส ช่วยป้องกันและรักษาอาการขาดน้ำได้
* วิธีผสมสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ โอ อาร์ เอส 1 ซอง ในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้ว ( 240 ซีซี )
*ถ้าไม่มีอาจเตรียมได้เอง โดยใช้เกลือแกงครึ่งช้อนชา และน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ขวด ขวดแก้วของเหล้าหรือขวดน้ำปลา ( 750 ซีซี ) หากผสมมาแล้วกินไม่หมดภายใน 1 วัน ( 24 ชั่วโมง ) ให้เททิ้ง และผสมใหม่


วิธีดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ โอ อาร์ เอส ในแต่ละครั้งที่ถ่ายอุจจาระ
* เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ให้ดื่มครั้งละ 1/4 - 1/2 แก้ว ควรใช้ช้อนตักป้อนบ่อย ๆ 1 ช้อนชา ทุก 1 - 2 นาที เพื่อให้ย่อยและดูดซึมได้ทัน
* เด็กอายุมากกว่า 2 ปี - 10 ปี ให้ดื่มครั้งละ 1/2 - 1 แก้ว โดยให้จิบจากแก้วน้ำบ่อย ๆ ไม่ควรให้เด็กดูดจากขวดนม เพราะเด็กกระหายน้ำจะดูดอย่างรวดเร็วจนได้รับสารน้ำปริมาณมากในครั้งเดียวจะทำให้เกิดอาการอาเจียน หรือดูดซึมไม่ทัน ทำให้ถ่ายมากขึ้น
* ถ้าอาเจียนให้หยุดพักก่อนสัก 10 นาที แล้ว ค่อยป้อนใหม่ช้า ๆ
* อายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ให้ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ขึ้นไป โดยดื่มทีละน้อย ๆ  แต่บ่อย ๆ

จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้ยา
  อุจจาระร่วงส่วนใหญ่จะหายได้เอง ถ้าให้การป้องกันและรักษาภาวะการขาดน้ำ และให้อาหารที่เหมาะสมการกินยาหยุดถ่ายหรือยาแก้ท้องเสีย ทำให้ลำไส้ต้องเก็บกักเชื้อโรคไว้นานขึ้น นอกจากนั้น  การใช้ยาหยุดถ่ายเกินขนาดในเด็กเล็ก อาจเกิดภาวะพิษได้ซึ่งเป็นอันตรายมากการกินยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็น อาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ยาหรือดื้อยาได้ การใช้ยาควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาใด ๆ


ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก แผ่นพับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ