คุุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าคะ ที่มีปมด้อย
คุณฟังคำวิจารณ์จากคนอื่น แล้วเก็บมาฝั่งไว้ในใจ ไม่ยอมลบเลือนทั้งที่อาจเป็นเรื่องนานเนกาเลมาแล้ว แต่คุณก็ยังยึดติดอยู่ว่าเป็นความจริงมาถึงปัจจุบัน
เช่น เมื่อตอนเด็ก ๆ คุณอาจจะถูกผู้ใหญ่วิจารณ์ว่าคุณเป็นคนขี้ริ้วขี้เหร่ เมื่อโตขึ้นคุณก็ยังฝังใจกับปมด้อยนี้ ทำให้ไม่สนใจที่จะทำตัวให้สดชื่นมีเสน่ห์ เพราะคิดแต่ว่าแต่งอย่างไรก็คงไม่ขึ้น เรามันคนขี้เหร่ ไม่มีทางสวยได้หรอกในชาตินี้
เมื่อเป็นนักเรียน คุณอาจจะเรียนไม่เก่ง สอบเกือบตกทุกเทอม ใคร ๆ ก็ว่าคุณโง่ ตราบจนบัดนี้ แม้คุณจะมีการมีงานทำเป็นหลักฐานแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม เพราะกลัวจะพูดอะไรโง่ ๆ ออกไป เหล่านี้เป็นต้น
คนที่ฝั่งใจในปมด้อยของตนเอง มักแสดงกิริยาท่าทางออกมาให้คนอื่นเขารับได้อยู่เสมอ เช่น มีอะไรนิดหน่อยก็หน้าแดง เขินอายเสียแล้วเวลาพูดก็ติดตะกุกตะกัก บางคนก็ติดอ่าง จะตัดสินใจอะไรก็ลังเลเป็นเวลานาน เวลาเดินก็ก้มหน้าดูแต่พื้นไม่ยอมมองหน้าคนที่เดินสวนไปมาเดินผ่านคนมาก ๆ ก็ขาสั่น หรือต้องใส่แต่เสื้อตัวโคร่ง ๆ ปิดบังรูปร่างเอาไว้ เพราะอายที่รูปร่างไม่ดี ฯลฯ
เมื่อคุณแสดงความไม่มั่นใจในตัวเองออกไปอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ มีหรือที่ใคร ๆ เขาจะชื่นชมคุณ มีแต่จะยิ่งดูถูก หรือซ้ำเติมให้คุณตกต่ำมากขึ้นไปอีกเท่านั้นเอง
ในครอบครัว ลูกเต้าก็จะไม่ค่อยเคารพเชื่อฟังคุณ สามีหรือภรรยาก็จะหมดศรัทธาในตัวคุณ เพราะคุณไม่ได้แสดงความเป็นผู้นำ หรือมีน้ำยาให้พวกเขาเชื่อถือหรือภาคภูมิใจได้เลย เอาแต่คอยหลบอยู่ด้านหลัง ให้คนอื่นออกหน้าแทนทุกครั้งไป
ในที่ทำงาน ตำแหน่งการงานของคุณก็ไม่ก้าวหน้า เพราะหัวหน้าคนไหนล่ะที่จะเลือกคนที่ไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ เอาแต่หลบหน้าหลบตาคนอื่นมาเป็นผู้รับผิดชอบงานสำคัญ ๆ ที่มีตำแหน่งสูง ๆ เพราะแค่ดูแลตัวเองให้รอดไปวัน ๆ ก็แทบแย่แล้ว
คนที่มีปมด้อย และไม่ยอมสลัดปมด้อยทิ้ง จึงมักจะเป็นลูกน้องเขาไปตลอดกาล หาความก้าวหน้าในชีวิตไม่ค่อยได้
ถ้าคุณคิดว่าคุณมีปมด้อย คุณไม่อยากจะหายหรอกหรือ?
ปมด้อยนั้นเมื่อมีได้ ก็หายได้ ถ้าคุณมีความตั้งใจจริง และพยายามที่จะเลิกคิดถึงปมด้อยของคุณเสียที
ลืมสิ่งที่คนอื่นเคยวิพากษ์วิจารณ์คุณเสีย ลืมตามาพบกับปัจจุบัน ณ บัดนี้
เลิกขี้อาย เวลาพูดกับใครก็จงสบตาเขาตรง ๆ อย่าหลบ ในเมื่อเขามองเราได้ ทำไมเราจะมองเขาบ้างไม่ได้
เคยติดอ่าง ก็หัดพูดเสียงดัง ๆ หัดอ่านหนังสือเสียงดัง ๆ จนคล่องก่อนก็ได้ แล้วเวลาพูดจะหายติดอ่างไปเอง เวลาพูดก็พูดช้า ๆ ไม่ต้องรีบถ้ารีบจะทำให้พูดผิดพูดถูกได้ง่าย
เลิกเดินก้มหน้าหาเศษสตางค์ตามพื้นถนน หัดเงยหน้าขึ้นมาดูทิวทัศน์ข้างบนบ้าง แล้วคุณจะได้เห็นอะไรดี ๆ อีกเยอะ
เคยยอม เคยหงอให้คนอื่นอยู่เรื่อย ก็หัดปฎิเสธให้เป็น อะไรที่ไม่ชอบ ไม่อยากทำ ก็ลองบอกออกไปตรง ๆ คนอื่นจะได้รู้จักเกรงใจคุณเสียบ้าง
นิสัยกลัวคน ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มให้คนอื่นก่อน ทำใจดีสู้เสือไว้ คุณจะได้เพื่อนเพิ่มขึ้นอีกหลายคน
เคยคิดว่าตัวเองไม่สวย ไม่หล่อ ก็ส่องกระจกดูเสียใหม่ แล้วคุณจะเห็นว่าตัวเรานั้น ก็ไม่เลวนักหรอกน่า แต่งตรงนั้นนิด เติมตรงนี้หน่อย ทำผมทรงใหม่บ้าง หน้าตาก็ดูดีขึ้นเยอะ
ที่ใส่เสื้อผ้าสีทึม ๆ ตัวโกร่ง ๆ เพราะอายรูปร่าง ก็ลองหันมาบริหารร่างกาย ลดหน้าท้อง เพิ่มหน้าอก เดินยืดตัวให้อกผายไหล่ผึ่ง หาเสื้อผ้าสีสดใสมาลองใส่ดูบ้าง รับรองชีวิตจะสดชื่นขึ้นทันตาเห็น
เห็นไหมค่ะว่า ปมด้อยก็หายหายได้ไม่ยากเลย
ต่อไปนี้ใครเขามาวิพากษ์วิจารณ์คุณ ก็รับฟังไว้พิจารณาเท่านั้นพออย่าเก็บมาคิดลงโทษตัวเองให้เจ็บปวดและเป็นปมด้อยเลยค่ะ เสียเวลาแห่งความสุขในชีวิตไปเปล่า ๆ
บทความของ อิทิรา ปัทมินทร์ นักจิตวิทยา กองสุขภาพจิต กรมการแพทย์
จากหนังสือรายการกระจายเสียง วิทยุศึกษา ฉบับเดือน ธันวาคม 2534 หน้า16 - 18